1. รองรับ AndroidX ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ React Native เลยครับ จะทำให้ Library ภายนอกที่เราใช้อยู่และยังไม่ได้เขียนรองรับ AndroidX จะไม่สามารถงานได้ และทำให้เกิด error ตอน build เพราะฉะนั้นก่อนอัปเกรดควรเช็คก่อนว่า Library ภายนอกที่เราใช้อยู่ migrated และรองรับ AndroidX แล้วหรือยัง ถ้ายังก็คงต้องรอสักพักให้ Library ต่างๆ อัปเดตก่อน หรือใครอยากจะลองแก้เองก็ได้
.
2. ในเวอร์ชันนี้ ต่อไปทุกคนไม่ต้องสั่ง react native link แล้วนะครับ ตัว CLI จะทำการ auto link ให้เลย สำหรับคนที่จะอัปเกรดมาเวอร์ชันนี้ก็แนะนำให้ react native unlink ก่อน ค่อยอัปเกรด ไม่งั้นเดี๋ยวจะซ้ำ และเกิด error ได้
.
3. มีการนำเอา NetInfo, WebView และ Geolocation ออกจาก Core หลักแล้วนะครับ ใคร import แบบเดิมอยู่ ก็ให้เปลี่ยนไปติดตั้งแยก และใช้ Repo ของตัวนั้นได้เลย แล้วค่อย import เข้ามาใช้งานตามปกติ
.
4. เพิ่มตัวช่วยในการอัปเกรดเวอร์ชันของ React Native (Upgrade Helper) สะดวกมา ดูได้ที่นี่ครับ => http://bit.ly/2Ss6nx2
.
5. เปลี่ยนหน้า Intro screen (หน้าแรกตอนติดตั้งครั้งแรก) ใหม่ (ตามรูป)
.
6. ใช้ React เวอร์ชัน 16.8.6 ล่าสุด
.
7. ตั้งแต่เวอร์ชัน 0.60.2 ขึ้นไป จะรองรับ Hermes ซึ่งเป็น open-source JavaScript engine จะทำให้ การรัน React Native ตอนเริ่มต้นเร็วขึ้น (start-up time) ใช้หน่วยความจำได้ดีขึ้น และ App ของเรามีขนาดเล็กลง! ใครสนใจอยากลองเปิดใช้งานตัวนี้ ดูได้ที่นี่ครับ => http://bit.ly/2NX3N3k
.
*ข้อแนะนำ หากใครอยากลองอัปเกรดเวอร์ชันนี้ย้ำอีกรอบอย่าลืม backup โปรเจคเดิมก่อนนะครับ และตรวจสอบการรองรับ AndroidX ของ Library เดิมก่อน อีกข้อคืออย่าลืม unlink ด้วยนะ
.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ => http://bit.ly/2XKVMDf
.
ลองดูครับ
โค้ชเอก