1. ต้องใช้ PHP เวอร์ชัน 7.2.0 ขึ้นไป
.
2. มีการแยกงาน frontend scaffolding ออกจาก framework หลักแล้วนะครับ ถ้าใครต้องการ ui สำเร็จรูป และระบบล็อกอินสำเร็จรูปต้องติดตั้ง package ชื่อว่า laravel/ui แทน
ด้วยคำสั่ง composer require laravel/ui
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมต้องการใช้ vue.js และระบบล็อกอินสำเร็จรูป (เป็น Bootstrap 4)
ก็ใช้คำสั่ง php artisan ui vue –auth เป็นต้น
ณ ตอนนี้ หากเราติดตั้ง Laravel 6 ใหม่จะไม่มีส่วนนี้ติดมาให้แล้วนะครับ
.
3. ปรับปรุง Eloquent Subquery ให้เขียนง่ายขึ้นภายในคำสั่งเดียว
.
4. ปรับปรุง Authorization Responses เพื่อให้สามารถแจ้งข้อความแก่ผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น (ใช้เมธอด Gate::inspect)
.
5. เพิ่มคลาส LazyCollection สำหรับทำงานกับ datasets ที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ใช้ memory น้อยลง (โหลดทีละ query ด้วย method ที่ชื่อว่า cursor())
.
6. มีการนำเอา String และ Array Helpers ออกจาก framework หลักแล้วนะครับ ใครที่ใช้ helpers สองตัวนี้อยู่ก็ให้ลงเพิ่ม ด้วยคำสั่ง composer require laravel/helpers
.
7. นำเอาคำสั่ง Input::get ออกแล้ว ก็ให้ใช้ Request::input แทน
.
8. รองรับ Laravel Vapor ซึ่งเป็น serverless deployment platform ใหม่ที่ผู้สร้าง Laravel ทำขึ้นมา สะดวกมากหากใครไม่อยากทำ Server เอง
.
9. เวอร์ชันนี้จะเป็นเวอร์ชัน LTS ครับ support ยาวจนถึงปี 2022
.
10. มาพร้อมกับโลโก้ และเว็บไซต์ ใหม่ 🙂
.
ขอสรุปสั้นๆ แค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ ใครสนใจก็ไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ => http://bit.ly/2KUmVeG
.
ลองดูครับ 🙂
โค้ชเอก