สรุป 39 คำสั่ง! Laravel 5.5 ที่ใช้งานบ่อย
———–
1. แสดงผลตัวแปรต่างๆที่ไปที่ view
view(‘task.index’)->with(‘tasks’, Task::all());
หรือ
view(‘task.index’,[‘tasks’, Task::all()]);
2. route cache
php artisan route:cache
3. ล้าง route cache
php artisan route:clear
4. สร้าง csrf tokens field ให้กับฟอร์ม
{{ csrf_field(); }}
5. คำสั่งเกี่ยวกับการ Redirects
return redirect()->to(‘login’);
หรือ
return redirect(‘login’);
6. route redirect เช่น
return redirect()->route(‘home.index’);
return redirect()->route(‘home.show’,[‘id’, 99]);
7. redirect back() ใช้
redirect()->back();
หรือเขียนย่อๆ แค่นี้
back();
8. redirect ไปที่ route ที่ชื่อว่า home
home();
9. refresh หน้า
refresh();
10. redirect โดยใช้ action() เช่น
redirect()->action(‘ชื่อController@ชื่อmethod’);
11. สร้าง flash data session
redirect()->with([‘error’=>true,’message’=>’Whoops!’]);
12. aborting the request
abort(403,’คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้’);
13. return json
return response()->json(User::all());
14. ดาวน์โหลดไฟล์
return response()->download(‘file1.pdf’,’file2.pdf’);
หรือถ้าต้องการแสดงที่ browser ก็ใช้
return response()->file(‘file1.pdf’);
15. รับ input ทั้งหมดจาก request
$request->all();
16.รับ input ยกเว้นบางตัวใช้ except
$request->except(‘_token’);
17. รับ input เฉพาะที่ต้องการใช้ only
$request->only([‘firstname’,’email’]);
18. ใช้ has จะ return false ถ้ามีตัวแปร และว่าง
if ($request->has(‘file’)) {
}
19. จะ return true ถ้ามีตัวแปร และว่าง
if ($request->exists(’email’)) {
}
20. รับ request ทีละฟิลด์
$request->input(’email’)
21. ถ้าเป็น JSON Input ก็ใช้เหมือนกัน อ้างจุดไปที่ object
22. Accessors = getting data ของ Model
23. Mutators = setting data ของ Model
24. หากอยากซ่อนบางฟิลด์ ก็กำหนดที่ Model นั้นๆ ($hidden) เช่น
class Contact extends Model {
public $hidden = [‘password’,’email’];
หรือ เลือกแสดงบางฟิดล์ก็ใช้ ($visible) เช่น
public $visible = [‘name’,’gpa’];
}
25. เข้าถึงข้อมูลของ user โดยใช้ request เช่นอยากได้อีเมล์ ก็เขียนง่ายๆ ตามนี้
$request->user()->email
หรือเขียนที่ view ก็ได้ เช่น
ยินดีต้อนรับคุณ {{ auth()->user()->name }}
26. ตั้งชื่อให้กับ route เพื่อง่ายต่อการเรียกใช้งาน โดยระบุ ->name(‘ชื่อ route’) เช่น
Route::get(‘/home’, ‘HomeController@index’)->name(‘home’);
27. config cache ใช้คำสั่ง
php artisan config:cache
28. ล้าง config cache ใช้คำสั่ง
php artisan config:clear
29. ล้าง application cache
php artisan cache:clear
30. Compiling Assets (Laravel Mix)
ติดตั้ง Dependencies ใช้คำสั่ง npm install
รัน Laravel Mix ใช้คำสั่ง npm run dev หรือ npm run watch
หรือหากต้องการรันเพื่อ production ก็ใช้คำสั่ง npm run production
31. ดูว่า Laravel เตรียม frontend preset อะไรให้เราบ้างใช้คำสั่ง (ปกติก็มี bootstrap, vue, react, none)
php artisan preset –help
32. สร้างระบบ Authentication ใช้คำสั่ง (มีระบบล็อกอินมาให้เลย)
php artisan make:auth
33. แสดง route ทั้งหมดของ app เรา
php artisan route:list
34. คำสั่งสำหรับลบตารางทั้งหมด และสั่ง migrate ใหม่อีกครั้ง
php artisan migrate:fresh
35. คำสั่งแบ่งหน้า ใช้
$persons = Person::paginate(20);
หรือ
$persons = Person::simplePaginate(15);
36. ตัวอย่างการทำ Validation (เขียนที่ controller)
$request->validate([
‘title’ => ‘required’,
‘price’ => ‘required|numeric’,
‘image’ => ‘mimes:jpeg,jpg,png’
],[
‘title.required’ => ‘กรุณากรอกชื่อสินค้าด้วย’,
price.required’ => ‘กรุณากรอกราคา’,
‘price.numeric’ => ‘กรุณากรอกราคาเป็นตัวเลขเท่านั้น’,
‘image.mimes’ => ‘ไฟล์ที่เลือกต้องนามสกุล jpeg, jpg, png เท่านั้น’
]);
37. แสดงวันที่และเวลาปัจจุบัน ใช้คำสั่ง now() หรือ วันที่อย่างเดียวใช้ today() เช่น
{{ now() }}
{{ today() }}
38. ใช้ Bcrypt เพื่อ hash รหัสผ่าน เช่น
$password = bcrypt(‘1234’);
39. เรียกค่า config จากไฟล์ .env ใช้ config() แต่ตอนอ้างถึงใช้เครื่องหมายจุด แทน _ (underscore) เช่น
$value = config(‘app.timezone’);
สุดท้ายหากสนใจเขียน Laravel 5.5 แนะนำ e-Book เล่มนี้ครับ
http://www.codingthailand.com/laravel55ebook/
ขอบคุณครับ
โค้ชเอก
Coding Mentor